วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557


ทฤษฏี อมีบา กับ ความยั่งยืนขององค์กร

ท่ามกลางวิกฤตเศรษกิจ ที่ปรึกษานึกถึง กูรูท่านหนึ่งเคยพูดว่า สัตว์ที่แข็งแรงที่สุด ใช่ว่าจะสามารถดำรงอยู่ในโลกใบนี้ได้  แต่สัตว์ที่สามารถดำรงอยู่ในโลกนี้ได้ยาวนานที่สุด คือสัตว์ที่สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปต่างหาก 

 จากข้อความข้างต้น เราจะพบว่าในยุกต์ดึกดำบรรพ์ ไดโนเสาร์ซึ่งเป็นสัตว์ที่แข็งแรงที่สุดในขณะนั้น ไม่สามารถอยู่รอดได้ แต่สัตว์ประเภทเซลเดียว เช่น อมีบา สามารถดำรงเผ่าพันธ์อยู่รอดเป็นหมื่นๆปี  ซึ่งทำให้มีการยกย่องว่าเป็น King of animals” หรือราชาของสัตว์ทั้งปวง  แม้แต่มนุษย์เรา ซึ่งมีความฉลาด สามารถดำรงเผ่าพันธุ์ มาเพียงห้าพันปีเอง  ทำให้เกิดทฤษฎี อมีบาขึ้นมา 


เมื่อนำทฤษฎีนี้มาใช้เปรียบเทียบกับความอยู่รอดขององค์กร เราสามารถใช้ทฤษฎี อมีบา มาอธิบายได้ว่า องค์กรที่สามารถอยู่รอดได้ ไม่ใช่องค์กรที่ได้กำไรสูงสุด หรือองค์กรที่ครองยอดขายสูงสุด แต่ต้องเป็นองค์กรที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เมื่อสภาพแวดล้อม ไม่ว่าสังคมและเศรษฐกิจเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม  ยกตัวอย่างโตโยต้า

เมื่อได้อ่านประวัติของบริษัทโตโยต้าในอดีตอยู่ในแวดวงสิ่งทอ  แต่ช่วงหลังสงครามโลก เจ้าของ มองว่าในอนาคตของโตโยต้าคือ รถยนต์ เป็น สิ่งที่สำคัญมากในอนาคต   จึงได้ให้ลูกชายเรียนเกี่ยวกับเครื่องยนต์เพื่อเปิดโรงงานผลิตรถยนต์  เมื่อลูกชายได้ไปดูงานที่ ฟอร์ด พบว่า โรงงานฟอร์ดมีสต็อกอะไหล่จำนวนมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงมาก ต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก  แม้ว่ากระบวนการผลิตจะดีก็ตาม  โตโยต้าไม่สามารถทำตามรูปแบบของฟอร์ดได้  เนื่องจากไม่มีทุนพอที่จะสต็อกชิ้นส่วนจำนวนมากได้  แต่โตโยต้าก็ไม่ยอมแพ้  และเมื่อได้เข้าไปดูใน supermarket ที่สหรัฐที่กำลังเติบโตขึ้นมา  จึงเกิดความคิดว่าสามารถดัดแปลงโดยเลียนแบบการผลิตแบบฟอร์ด แต่ไม่จำเป็นต้องสต็อกอะไหล่ไว้มาก โดยทำเลียนแบบเหมือน supermarket ซึ่งเมื่อมีการหยิบอะไหล่ไปใช้ 1 ตัว ก็นำมาใส่ไว้ 1ตัว เหมือนชั้นวางใน supermarket ทำให้ไม่ต้องสต็อกชิ้นส่วนจำนวนมาก  ลดเงินที่ใช้ลงทุนได้มาก  

นี้คือความสามารถในการปรับตัวของโตโยต้าที่ไม่มีเงินทุนเพียงพอในการผลิตในลักษณะเดียวกับฟอร์ดได้ในช่วงสงครามโลก   แต่สามาถรถผลิตรถยนต์ออกจำหน่ายด้วยต้นทุนที่ใช้ต่ำกว่ามาก เหมาะกับสภาพเศรษกิจของหลังสงครามโลกของญี่ปุ่น ที่ไม่มีทุนรอนเหมือนโลกตะวันตก และสามารถพัฒนาหรือปรับตัวเองจนสามารถผลิตรถยนต์และทำกำไรสูงสุดในบรรดาค่ายรถยนต์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น